เส้นทางเด็กสามภาษา ( วีซ่า )
เเนะนำตัวกันหน่อย
เเนะนำตัวกันหน่อย
สวัสดีคร้าบบ ผมชื่อ วีซ่าครับ ตอนนี้อายุ 2.7 ขวบ เเล้วครับ
วีซ่า เป็นลูกของเเพรวเองค่ะ วันนี้เเวะมาเล่าประวัติความเป็นมาสักนิด ก่อนที่จะ เปิด สอนคำศัพท์ ทางบล๊อคของเรา เเพรวจะพยายามหาเวลาเเวะมาทำเอกสารสอนเพื่อนๆ บ่อยๆนะค่ะ
มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ เเพรวเริ่มสนใจภาษามือมาจากชายคนเเปลกหน้าคนนึงที่เรารู้จักกันผ่านโลกออนไลน์ค่ะ คนๆนี้เป็นอาจารย์ อยู่ประเทศ มาเลเซีย เเเพรวเองเรียนรู้ ฝึกพูดภาษาจีน เเละภาษาอังกฤษ กับเค้าตั้งเเต่ เเพรวยังเรียนมหาลัยค่ะ จนกระทั่งเเพรวเเต่งงาน มีลูก ก็ยังคุยกันเรื่อยมา
เค้าชอบเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวต่างๆของการศึกษา ของเด็กในประเทศมาเลเซีย บ่อยๆ จนวันนึงเค้าพูดถึงเรื่องการใช้ภาษามือ ตอนได้ฟังเค้าเล่าครั้งเเรก ก็มีความรู้สึกเหมือน บ้าหรือเปล่า สอนภาษามือนี่นะ จะพัฒนาเด็กให้เก่งหลายภาษาได้อย่างไร เเต่ก็ยังคาใจ จึงหาข้อมูลจริงๆจังๆ ค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาคลอดวีซ่า
วันเเรกที่คลอดลูกออกมา มีปัญหามากมายในกระบวนการของการคลอด (ความผิดพลาดของ...รพ) ลูกหายใจเองไม่ได้ ต้องนำส่งห้องไอซียูเด็กเพื่อดูอาการ ร่วม 10 วัน วันเเรกของใครหลายๆคนอาจได้นอนเเนบชิดกับลูก เเต่เเพรวต้องรอเวลาที่เค้าเป็นปกติ เวลานั้น เจ็บปวดหัวใจเหมือนมีคนมากรีดหัวใจ ยังไงยังงั้น
ไถ่ถามคุณหมอเสมอมาว่าลูกเป็นอะไรร้ายเเรงหรือเปล่า เเต่ได้คำตอบเเค่เพียงลูกปกติดี เเต่ก็ยังงง ว่าปกติเเล้วพาเข้า ไอซียูทำไม ออกมาเเล้วก็ยังคงต้องให้ลูกอยู่ในตู้อบอีก
คนเป็นเเม่ เห็นลูกนอนใส่เเค่เเพมเพิส 1 ผืน กับสายระโยงระยาง ก็อดที่จะใจสลายไม่ได้ นั่งร้องไห้ทุกวัน เพราะสงสารลูก
เเต่เรื่องราวเหล่านี้ก็ผ่านไป (พร้อมกับข้อสงสัยที่ไม่เคยได้คำตอบจากโรงพยาบาล)
เคยเเจ้งเรื่องความผิดพลาดของหน่วยงานไปกับโรงพยาบาลเเต่ก็ไม่เคยได้รับการดูเเลใดๆ
หลายท่านคงสงสัยว่าทำไม เกี่ยวอะไรกับการเเบนเข็มในการเลี้ยงลูก นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เเพรวกังวลมากในเรื่องของผลกระทบที่มีผลต่อสมองลูก
กลับมาถึงบ้านก็ได้เเต่คิดว่าหากเกิดปัญหานั้นจริงๆ อย่างที่เรากลัวจะทำอย่างไร ถึงเวลาโรงพยาบาลคงไม่สามารถรับผิดชอบเเก้ไขอะไรได้เป็นเเน่ จึงกลับมาคิดอีกครั้งเรื่องของการสอนภาษามือที่คุณครูชาวมาเลเซียเคยพูดไว้ว่า เป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาสมองเด็กได้ดี ทั้งเด็กที่ปกติดี เเละเด็กที่มีปัญหาหรือป่วยทางสมอง ก็ใช้ร่วมกันได้ ตั้งเเต่นั้นมาจึงตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูล อย่างจริงจังอีกขั้นหนึ่ง
วันนึงเปิดเจอการเรียนการสอน เด็กสองภาษา ของผู้เขียนหนังสือ เรื่อง เด็กสองภาษา จึงตัดสินใจไปเรียน กลับมาก็คิดเลยว่าสองสิ่งนี่ช่วยพัฒนาลูกเราได้ (ใจตอนนั้นคือกลัวลูกจะมีพัฒนาการทางสมองช้าเพราะ การขาดอาการหายใจตั้งเเต่ตอนคลอดที่นานเกินไป มีผลโดยตรงกับการกระตุ้นเซลล์สมองของเด็ก ) ซึ่งข้อความเหล่านี้เราอ่านเจอในอินเตอร์เนต เเต่ก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงนัก ใจคิดขอเเค่ทำอะไรให้เต็มที่ก่อน เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป ค่อยๆเเก้ไขกันอีกที
ทันทีที่คิด ก็หาข้อมูล วิธี อ่านหนังสือ ดูซีดีการเรียนการสอน ทุกวัน ยามลูกหลับ ศึกษาเเบบนี้มาเรื่อยๆ จนรู้ว่าตนเองพร้อมเเล้วในช่วงลูกอายุได้ 6 เดือน
ขณะที่เริ่มทำ ครอบครัวไม่เห็นด้วยเลยกับการสอนลูกเเบบนี้ ตั้งเเต่วันนั้น เเพรวเริ่มเเบ่งหน้าที่ให้ทุกคนรอบข้างวีซ่า ยายกับตา รับหน้าที่พูดภาษาไทย ป๊าพูดภาษา จีน แพรวพูดภาษาอังกฤษ
เเพรวไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยค่ะ เกลียดด้วยซ้ำ เพราะเรียนไม่เคยเข้าใจ เป็นปมมาตั้งเเต่เด็กๆ จนมหาลัย เเต่ก็ได้กำลังใจมาจากการไปเรียนคอสของ คุณบิ๊ก เจ้าของหนังสือ เด็กสองภาษา ค่ะ หาความกล้าของตนเองให้เจอ เเค่เราคิดว่าเราทำได้ เเละเริ่มเลย เราก็จะมีความกล้าที่จะออกจากปมเก่าๆ ของเราค่ะ
เเพรวสอนลูก 3 ภาษา พร้อมภาษามือ เป็นภาษาที่ 4 ควบคู่กันไป ทำเเบบนั้นมาเรื่อยๆ ถามว่าเคยมีท้อบ้างไม๊ เเน่นอนค่ะ เเต่เเพรวจะกลับไปคิดเสมอว่า เพื่อลูก เพื่อเวลาที่เราเคยตั้งใจเเละพยายามมาก่อนหน้านี้ อดหลับอดนอน เพื่อเรียนรู้ จะปล่อยเวลาเหล่านั้นให้สูญเปล่าไม่ได้ จึงตั้งใจทำต่อไป จนลูก อายุ ได้ 11 เดือน เเพรวจดไว้เสมอเวลาที่เค้าเริ่มสื่อสารกับเรา วีซ่าพูดภาษามือกับเเพรว เเละครอบครัว เป็นจำนวน 250 คำ โดยประมาณ เเต่หมายรวมถึงภาษาทั้ง 3 นะค่ะ 250*3 ซึ่งเเพรวว่า มันได้ผลเกินคาดเลยล่ะค่ะ
หลังจากความดีใจได้ไม่นานก็มาเจอคำถามระหว่างทางอีกว่า เเล้วเราจะใช้ภาษามือไปถึงเมื่อไหร่ ทำไมลูกเราถึงไม่ยอมพูดสักที เด็กๆคนอื่นพูดกันเป็นประโยคเเล้ว จุดนี้ก็เเอบท้ออีก จนกลับมานั่งคิด ปรึกษาคนอื่นๆ ได้คำตอบมาคนละทิศละทาง จึงกลับมาคิดว่า ไม่ได้เเล้วล่ะ ต้องทำอะไรสักอย่างเเล้ว จึงทดลองค่อยๆ หยุดสื่อสารกับเค้าเป็นภาษามือ เเล้วการคุยกับเค้าก็ทำให้ช้าลงให้เค้าอ่านปากเรา ดั่งที่เพื่อนๆ เเนะนำมา เเต่มันไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ค่ะ เค้าไม่ยอมพูดตาม จนท้อไปอีกรอบ เเล้วอยู่อยู่วันนึงเค้าพูดออกมาเอง เป็นคำที่เรายังไม่เคยสอนให้เค้าอ่านปาก เเต่เป็นคำที่เราเคยใช้ภาษามือสอน
ตั้งเเต่นั้นมา ก็ยังใช้วิธีต่างๆ ร่วมกัน 555+ (รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีหลักให้ยืน ยังไงยังงั้น) เเต่ไม่นานเค้าก็เริ่มสื่อสารได้ดีขึ้นค่ะ จนวันนี้ 3 ภาษาที่พร่ำสอน 2.7 เริ่มต่อล้อต่อเถียง ได้เเล้วค่ะ
ปล.ตอนนี้ไม่ได้โกรธหมอเเล้วค่ะ ต้องขอบคุณเค้าด้วยซ้ำที่ทำให้เราคิดเเก้ปัญหาจนมาเป็น เช่นวันนี้
วีซ่าอ่านหนังสือกับ ปะป๊า ครับ(เเอบเกาหัวนิดนึง เหมือนยุงจะกัดหัว อิๆ ขออภัยท่านผู้ชมด้วยนะค่ะ ดูเเล้วอาจขัดใจ ......)
สำหรับใครที่สงสัยหรืออยากทำเเต่เริ่มไม่ถูก ทิ้งคำถามไว้ได้นะค่ะ หรือจะเข้ามาถามในเฟสบุ๊คก็ได้ค่ะ
Aawaluree Phimkeaw
หากมีเวลาเหมาะๆ จะกลับมาเขียนอะไรดีดีฝากไว้ให้กับสังคมอีกนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆครอบครัว ได้เลี้ยงลูกจากหัวใจที่เเท้จริงค่ะ
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน เเละ พบกันกับการเรียนรู้ภาษาจีน ในบล๊อคต่อๆไปนะค่ะ
*******************************************************************************************************
บล๊อคที่เขียนอื่นๆ
ธรรมชาติของเด็ก หนังสือของเเม่ เรียนรู้ภาษาจีนวันละคำ
********************************************************************************
Booking.com